Connect with us

Politics

Brian Berletic เปิดข้อมูล iLaw รับเงินต่างชาติ แทรกแซงแก้รธน.ไทย

Published

on

4 พ.ย. 2563 Brian Berletic หรือนามแฝง โทนี่ คาร์ตาลุชชี่ นักเขียน อดีตนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกา ที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย เปิดเผยข้อมูล iLaw และกลุ่มทุนต่างชาติ ที่สนับสนุนให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ และกระทบถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย
.
iLaw is a US government-funded front petitioning the Thai government to have the entire Thai constitution rewritten and rewritten in such a way as to make it easier for US-backed opposition parties to get into power. I cover iLaw’s US government funding and why it seeks to change Thailand’s constitution and how it threatens Thai-Chinese relations and ultimately Thailand’s economic future. References: Bangkok Post – Three parties want to rewrite charter:

Continue Reading
Advertisement

Politics

The Intercept แฉ “เฟซบุ๊ก” เปิดพื้นที่สื่อ หนุนกลุ่มนีโอนาซี ให้สู้กับรัสเซีย

Published

on

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 สำนักข่าว The Intercept รายงานว่า บริษัท Facebook อนุญาตให้ผู้ใช้งานหลายพันล้านคนทั่วโลก สามารถโพสต์ข้อความหรือเนื้อหาต่าง ๆ ที่เป็นการชื่นชมกลุ่มหัวรุนแรงติดอาวุธในยูเครน ที่มีแนวคิดเผด็จการขวาจัดแบบนีโอนาซี (Neo-Nazi) โดยมีกลุ่มติดอาวุธกลุ่มหลักที่ใช้ชื่อว่า ‘กองพันอะซอฟ’ (Azov Battalion) เนื่องจากกลุ่มติดอาวุธนีโอนาซีเหล่านี้ เป็นกองกำลังสำคัญในการสู้รบกับรัสเซีย แม้ว่าจะเคยกระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงก็ตาม
.
ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2562 โซเชียลมีเดียแฟลตฟอร์มอย่าง Facebook เคยจัดให้กองพันอะซอฟ และกลุ่มหัวรุนแรงนีโอนาซีที่เกี่ยวข้องในยูเครน ให้เป็นกลุ่มที่ไม่สามารถใช้งาน Facebook และห้ามผู้ใช้ Facebook ทั่วโลกกล่าวชื่นชมเผด็จการนีโอนาซีกลุ่มนี้ใน
.
โดยกองพันอะซอฟและกลุ่มหัวรุนแรงนีโอนาซีในยูเครน ถูก Facebook ขึ้นบัญชีดำระดับ Tier 1 ซึ่งเทียบเท่ากับกลุ่มรัฐอิสลาม (Islamic State) และเทียบเท่ากับกลุ่ม KKK (Ku Klux Klan) อันมีสาเหตุจากการที่กลุ่มกองพันอะซอฟและกลุ่มหัวรุนแรงนีโอนาซี ก่อเหตุละเมิดสิทธิอย่างร้ายแรงในยูเครนมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี
.
ซึ่งในรายงานของสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ระบุว่าในช่วงที่เกิดเหตุรุนแรงทางการเมืองในยูเครนเมื่อ 2557 กองพันอะซอฟและกลุ่มหัวรุนแรงนีโอนาซี ก่อเหตุข่มขืนและทารุณกรรมผู้คนอย่างโหดเหี้ยม
.


แต่เนื่องจากกลุ่มหัวรุนแรงติดอาวุธดังกล่าว ได้กลายมาเป็นกองกำลังสำคัญในการสู้รบกับกองทัพรัสเซีย บริษัท Facebook จึงตัดสินใจยุติการแบนกองพันอะซอฟและกลุ่มหัวรุนแรงนีโอนาซี และปลดล็อกให้ผู้ใช้ Facebook สามารถโพสต์ข้อความหรือเผยแพร่เนื้อหาสาระที่ชื่นชมกลุ่มเผด็จการขวาจัดที่มีเครื่องหมาย ᛋᛋ อยู่บนเครื่องแบบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ชาวยุโรปจำได้เป็นอย่างดีว่า เป็นสัญลักษณ์ของกองกำลังนาซีในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่กระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวมากถึง 6 ล้านคน และพยายามบุกยึดกรุงมอสโกของโซเวียตรัสเซียแต่ไม่สำเร็จ
.
นอกจากนี้ เว็บไซต์ illiberalism ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานวิชาการของมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน (George Washington University) ยังได้เปิดข้อมูลเชิงลึกอีกด้วยว่า ลัทธิเผด็จการนีโอนาซีได้ฝั่งรากลึกเข้าไปในกองทัพยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรงเรียนนายร้อยกองทัพบกยูเครน (Hetman Petro Sahaidachny National Army Academy) และยังมีกลุ่มนายทหารนีโอนาซีของยูเครน ที่ได้รับการสนับสนุนด้านการทหารจากชาตินาโต้ ซึ่งตรงกับรายงานข่าวที่ทีมงาน Thailand Vision เคยนำเสนอไปแล้วเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564
.
ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลงานวิชาการของมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน ยังสอดคล้องกับรายงานข่าวเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565 ซึ่งสำนักข่าว The HILL ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนการรัฐประหารยูเครนในปี 2557 ซึ่งเป็นการรัฐประหารโค้นล้มรัฐบาลยูเครนที่มาจากการเลือกตั้ง อีกทั้งยังตรงกับข้อมูลในรายงานข่าวเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2564 ซึ่งสำนักขาว WSWS ระบุว่าพรรคกรีนของประเทศเยอรมนี และ Heinrich Böll Stiftung มูลนิธิในเครือพันธมิตรของพรรคกรีน เข้าไปสนับสนุนการประท้วงและการโค่นล้มรัฐบาลยูเครนที่มาจากการเลือกตั้ง
.
ทั้งนี้ สำนักข่าว The Intercept ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การจำแนกว่ากลุ่มคนหรือองค์กรไหน ที่เป็นภัยอันตรายร้ายแรงใน Facebook ขึ้นอยู่กับการจัดการนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยสามารถสังเกตได้จากการบริหารงานของ Facebook ในประเทศอิหร่าน ที่อนุญาตให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กสามารถโพสต์ข้อความว่า “Death to Khamenei” ซึ่งเป็นคำพูดข่มขู่คุกคามหมายเอาชีวิต ‘แอลี ฆอเมเนอี’ ผู้นำสูงสุดของประเทศอิหร่าน


แหล่งข่าว

  • https://theintercept.com/2022/02/24/ukraine-facebook-azov-battalion-russia/
  • https://www.illiberalism.org/far-right-group-made-its-home-in-ukraines-major-western-military-training-hub/
  • https://www.facebook.com/thvi5ion/posts/923169701955191
  • https://www.facebook.com/thvi5ion/posts/957637031841791
  • https://www.facebook.com/thvi5ion/posts/988161418789352

ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

Continue Reading

Politics

พบ จนท.ทูตสหรัฐฯ คุยแชท “ลูกเกด” แกนนำม็อบราษฎร พัวพัน”ธนาธร”

Published

on

แชท”หลุดหรือปลอม” แกนนำม็อบ คุย ต่างชาติ “ชลธิชา”โต้แค่รายงานสถานการณ์ ไม่ใช้ไลน์คุยกับทูต
พบ Agent H. เคยร่วมสังเกตการณ์คดี116 ของ”ธนาธร” ชาวโซเชียล จี้ ก.ต่างประเทศ สืบสวนข้อเท็จจริง

จากกรณี มีภาพแชทไลน์ชุดหนึ่ง หลุดออกมาในโลกโซเชียล ซึ่งอ้างว่าเป็นการสนทนาระหว่าง “ลูกเกด” ชลธิชา แจ้งเร็ว แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (Democracy Restoration Group – DRG) และกลุ่มคณะราษฎร 63 กับ ชาวต่างชาติ ที่ใช้ชื่อย่อว่า H. โดยเป็นการพูดคุยถึงสถานการณ์ของม็อบ แกนนำที่ถูกคุมขัง รวมทั้งการแสดงความชื่นชม “แอมมี่” กรณีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ นั้น
.
หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า Agent H. นั้น เป็นนามแฝงของใคร และยังมีการพูดถึง Agent H ว่าเป็น ฝรั่งสัญชาติอเมริกัน ที่ถูกแฉว่าอยู่เบื้องหลัง ม็อบสามนิ้ว ผ่าน ชลธิชา แจ้งเร็ว มีการวางแผนกันอย่างดี…. มีการตั้งโค๊ดเนม 5,6,7,8,9 เป็นตัวเลขแทนความหมายคนที่คอนโทรลอยู่
.
นอกจากนี้ ชาวต่างชาติ หรือ Agent H. ได้ยกนิ้วชื่นชมแอมมี่ ที่ก่อเหตุเผาพระบรมฉายาลักษณ์ จนถูกจับกุม โดย ชลธิชา ได้ตอบกลับว่า อาจจะมีม็อบเพิ่มมากขึ้นอีก และ สถานการณ์จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Agent H. ที่เธอคุยด้วย เป็นโค้ดเนมของใคร? หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า หรือนี่คือข้อพิสูจน์ถึงความจริงที่ว่า มีต่างชาติคอยแทรกแซงและสนับสนุนม็อบล้มสถาบันฯในประเทศไทย?
.
ล่าสุด ก็ได้มีการเปิดเผยแชทอีกชุดหนึ่ง โดยบอกว่า เป็นการพูดถึงกันระหว่างลูกเกด กับ Agent H. เป็นแชทที่มีการเร่งเร้าให้สถานการณ์การชุมนุมในประเทศไทยเกิดความรุนแรงขึ้น โดยมีการส่งข่าวสารของการชุมนุมในเมียนมา กรณีที่มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม โดยบอกว่า ต้องทำให้มีประชาชนเสียชีวิตแบบเมียนมา เพื่อที่จะกดดันให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คุมสถานการณ์ไม่ได้

“ชลธิชา”ปัดแชทปลอม ชี้ไม่มีใครใช้ไลน์คุยกับทูตเพราะไม่ปลอดภัย

ต่อมา น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chonthicha Kate Jangrew กล่าวถึงกรณีโซเชียลแชร์กระหน่ำแชทหลุดการสนทนาเกี่ยวกับการชุมนุมให้ชาวต่างชาติฟังว่า ภาพดังกล่าวเป็นแชทปลอม ไม่มีใครใช้ไลน์คุยกับสถานทูต ดังนี้
.
“เราเป็นแค่คนทำงานในวงการสิทธิมนุษยชนธรรมดาๆ ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรขนาดที่จะไปเรียกร้องให้ต่างชาติมาแทรกแซงเมืองไทยได้หรอกค่ะ
.
ที่พอจะทำได้ก็คือ การอัพเดตสถานการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนไทยให้ต่างชาติฟัง ดังนั้นไม่ต้องลงทุนถึงขั้นสร้างแชทปลอมออกมาโจมตีกันแบบนี้ เพราะมันดูไร้สาระมาก และที่สำคัญ ไม่มีใครใช้แชทไลน์คุยกับสถานทูตนะคะ มันไม่ปลอดภัย “

พบ Agent H. คือ Henry Rector อดีตจนท.สถานทูตสหรัฐฯในไทย

หลังจาก ชลธิชา แจ้งเร็ว ระบุว่าแชทหลุด เป็นการคุยกับเจ้าหน้าที่สถานทูต ชาวโซเชียล จึงตามแกะรอย Agent H. จนพบว่า รูปที่ใช้ในไลน์ เป็นรูปของ Henry Rector อดีตที่ปรึกษาทางการทูตอาวุโสด้านการเมือง ของสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยช่วงปี 60-63 โดยได้เข้ามาประจำการในประเทศไทยเป็นเวลา 3 ปี ก่อนจะเข้าร่วม ศูนย์การศึกษาความปลอดภัยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (DKI APCSS) ในเดือนกันยายน 2563 ในตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสทางการทูต (SDA)

พบภาพ Henry Rector ร่วมสังเกตการณ์”ธนาธร”รับทราบข้อกล่าวหา 116

เมื่อสืบค้นประวัติ ของ เฮนรี่ เรกเตอร์ ในขณะที่เขาทำงานในสถานทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย ก็พบข้อมูลที่น่าสนใจว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2562 เฮนรี่ เรกเตอร์ เป็น 1 ใน 12 คณะจนท.ทูต ที่เข้าร่วมสังเกตการณ์ กรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อรับทราบข้อหาตามหมายเรียกข้อกล่าวหา มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น และมาตรา 189 ช่วยเหลือหรือให้ที่พำนักผู้ต้องหากรณีช่วยนายรังสิมันต์ โรม นักกิจกรรมทางการเมืองหลบหนีระหว่างการชุมนุมประท้วง คสช. เมื่อปี 2558 โดยมีกลุ่มมวลชนและผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ มาให้กำลังใจ ระหว่างนั้นได้มีตัวแทนขององค์การสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และตัวแทนจากสถานทูต 12 ประเทศ อาทิ สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ แคนาดา สหรัฐอเมริกา มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย แต่ก็มีชาวเน็ตออกมาตั้งข้อสังเกตว่า ชาวต่างชาติในภาพเป็นนักการทูตจริงหรือไม่
.
โดยรายชื่อตัวแทนขององค์การสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และตัวแทนจากสถานทูต ส่วนหนึ่งที่มาสังเกตการณ์นายธนาธร ประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้

  1. Henry Rector Political counselor (US)
  2. Kasper Rasmussen Political Attache (JPD) EU
  3. Alexander Nowak Counselor German Embassy
  4. Daniel Feiller Second secretary Political British Embassy
  5. Christophe Carlucci Premier Secretaire French Embassy
  6. Gonna Lehman Assistant Director Australian Embassy
  7. Kenza Tarqaat Deputy Head of Political and Economic Department Netherlands Embassy
  8. Heikki Karhu Deputy Head of Mission Embassy of Finland
  9. Gregoria Legault
    Second Secretary Canadian Embassy
  10. Idesblad Van Der Gracht First Secretary Belgian Embassy
  11. Badar Farrukh Thailand Team Leader UNHRC
  12. Dr.Colin Josef Steinbach First Counsellor (Potical , Press & Information) EU

หลังจากข้อมูลต่าง ๆ หลุดออกมา ชาวโซเชียลจึงได้เรียกร้องไปยังกระทรวงการต่างประเทศของไทย ให้เร่งทำการสืบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ทางสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ยังไม่ได้ให้ความเห็นใด ๆ ต่อเรื่องที่เกิดขึ้น

แหล่งข่าว

  • https://www.thaipost.net/main/detail/99732
  • https://www.thansettakij.com/content/politics/476241
  • https://mgronline.com/onlinesection/detail/9620000034606
  • https://truthforyou.co/44494/amp/
  • https://truthforyou.co/44502/

ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

Continue Reading
Advertisement

The Latest News

Trending